ขีดจำกัดสายเลือด
..........ในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ขีดจำกัดสายเลือด
(「血継限界」, Kekkei genkai, – เคกเกเงนไก?) หรือสายเลือดพิเศษ
เป็นวิชาลับที่ส่งผ่านในตระกูลทางสายเลือดเท่านั้น
และไม่สามารถร่ำเรียนหรือเลียนแบบได้ ได้แก่
ต้องเป็นผู้สืบเชื้อสายทางสายเลือดโดยเฉพราะในวงศ์ตระกูลเดียวกันเท่านั้น
เนตรวงแหวน หรือ เชนรินงัน (ความหมายดวงตาลอกเลียนแบบ)
เป็นสายเลือดพิเศษของตระกูลอุจิวะ
ว่ากันว่าเนตรนี้มีต้นกำเนิดจากเนตรสีขาวของตระกูลฮิวงะ
2. อุจิวะ อิซึนะ (เนตรวงแหวน)น้องชายของมาดาระ
3. อุจิวะ อิทาจิ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา) จะได้พลังมา 3 อย่างคือ อ่านจันทรา,เทวีสุริยา และ เทพวายุ คนฆ่าล้างตะกลูอุจิวะ
4. ฮาตาเกะ คาคาชิ (เนตรวงแหวนข้างซ้าย) คาคาชิสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เพราะเนื่องจากที่ได้มาจากการฝึกฝน ต่างกับของอิทาจิที่ได้มาจากการสังหารเพื่อนสนิท ทำให้พลังที่ได้จึงแตกต่างกัน คือ สามารถย้ายสิ่งต่างๆ ที่ตนเพ่งไปยังมิติอื่นได้ อาทิเช่น แขนของเดอิดาระ มีคนนอกตระกูลเพียงคนเดียวที่ได้รับเนตรวงแหวน มาจากเพื่อนในสมัยเด็กคือหลังจากถูกเชลยสงครามชิงตัวไป ซึ่งเพื่อนของเขาได้มอบเนตรวงแหวนให้คาคาชิก่อนที่จะตาย เพื่อเป็นของขวัญที่คาคาชิสามารถสอบเป็นโจนินได้สำเร็จ
5. อุจิวะ ซาสึเกะ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา,เทวีสุริยา จากอิทาจิ)ทายาทคนสุดท้ายของอุจิวะ
6. อุจิวะ โอบิโตะ เป็นคนมอบเนตรวงแหวนข้างขวาของตนเองให้กับคาคาชิ
7. โทบิ (เนตรวงแหวน???)หนึ่งในแสงอุษา ที่ใส่หน้ากาก ว่ากันว่าเป็นอุจิวะ มาดาระ แต่มีเนตรวงแหวนข้างขวา ข้างเดียวกันกับดันโซ
8. ดันโซ(เนตรวงแหวน ข้างขวา)มีเนตรวงแหวนข้างเดียวแบบคาคาชิ โดยมีผ้าปิดตาอยู่ ความสามารถ!?... (จากตอน455)

...........ผลกระทบ จากการใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คือจะไม่ได้รับแสงสว่างอีกต่อไป ซึ่งนั่นก็คือ ตาบอดนั่นเองอุจิวะ อิทาจิ ได้พูดไว้ในตอน 386 แต่เนตรหมื่นบุปผานิรันดร์ของมาดาระจะไม่ได้รับผลกระทบนี้...........เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ จะใช้เนตรนี่เท่าไรก็ได้ เพราะเนตรนี่จะไม่มีวันกลับไปตาบอดอีกได้อีก แล้วจะมีชีวิตที่เป็นอมตะ ไม่มีวันตาย
เนตรสีขาว
เนตรสีขาว หรือเรียก เบียกุงัน (白眼, びゃくがん, ความหมาย:
ตาสีขาว)เป็นสายเลือดพิเศษในตระกูลฮิวงะ โดยมีความสามารถหลักในการมองเห็น 340 องศา
(มองไม่เห็นด้านหลัง 20 องศา)
และสามารถมองเห็นเส้นพลังของจักระที่ไหลเวียนในร่างกายทั่งหมดในร่างกายได้
และใช้วิชา "มวยอ่อน"
ที่ถ่ายเทจักระทำให้จักระในร่างกายของคู่ต่อสู้ไม่สามารถรีดเร้นได้
จึงเป็นวิชาที่นับว่ามีความแม่นยำและอันตรายอย่างยิ่ง (ร้ายกาจมากที่สุดในโคโนฮะ)
ในขณะที่ต่อสู้ตัวต่อตัว
โดยมีจุดบอดจุดเดียวคือบริเวณกระดูกสันหลังข้อแรกบริเวณหน้าอก
โดยผู้ใช้สามารถจับการเคลื่อนไหวได้ในระยะ 50 เมตร
ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบในการต่อสู้ตัวต่อตัว
เนตรสังสาระ
(หรือเรียก เรนนินงัน Reinningan)
พื้นฐานของเนตรสังสาระสามารถทำให้ผู้ใช้สามารถบังคับใช้วิชานินจาได้ทุกสาย ตั้งแต่
สายดิน น้ำ ลม ไฟ และ สายฟ้า เพียงแต่ในเรื่อง คุณมาซาชิ จะกำหนดไว้ว่า เนตรสังสาระ
เป็นวิชาเนตรของนินจาจากตระกูลฟูมะ ซึ่งแข็งแกร่งที่สุด
ปัจจุบันผู้ครอบครองคือเพนแห่งแสงอุษา
..........ขีดจำกัดสายเลือดของฮาคุ เป็นวิชาเกี่ยวกับน้ำแข็ง
ซึ่งเกิดจากการผสมธาตุระหว่าง ธาตุน้ำกับธาตุลม
เป็นวิชาที่ไม่ให้ศัตรูสามารถโจมตีกลับได้เลยและมีจุดอ่อนน้อยมาก
โดยการสร้างกระจกจากน้ำในอากาศเป็นน้ำแข็งแล้วซ่อนตัวในเงาเพื่อโจมตี
ขีดจำกัดทางสายเลือดของตระกูล คิมิมาโร่
ซึ่งเป็นคนสุดท้ายในตระกูลเพราะถูกกวาดล้างในสงคราม มีโรคประจำตัว คือ
มะเร็งในปอด
..........ขีดจำกัดสายเลือดของเดอิดาระซึ่งเป็นหนึ่งในแสงอุษา โดย
เป็นผู้ใช้ ธาตุดิน แพ้ธาตุสายฟ้าเวลาใช้ต้องพูด คัตสึ
ซึ่งแปลว่าระเบิด
1.รูปแบบใช้ดวงตา
เนตรวงแหวน

-
จุดกำเนิด
ลักษณะเฉพาะที่แยกได้
- ความสามารถ
ระดับของเนตรวงแหวน
- เนตรวงแหวนขั้นที่ 1 จะมีจุดลูกน้ำในตา 1 จุด
- เนตรวงแหวนขั้นที่ 2 จะมีจุดลูกน้ำในตา 2 จุด
- เนตรวงแหวนขั้นที่ 3 จะมีจุดลูกน้ำในตา 3 จุด
- เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผา เป็นเนตรวงแหวนที่ต้องฆ่าเพื่อนที่รักที่สุด ถ้าใช้เนตรนี้มาก ตาจะบอด
- เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผานิรันคร์ เป็นเนตรขั้นต่อจากเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผาจะเบิกได้โดยการ ฆ่าพี่น้องที่มีเนตรวงแหวนเหมือนกัน และ เอามาใส่ในดวงตาของตัวเอง คนๆนั้นจะมีชิวิตอมตะ และ ตาไม่บอดอีกต่อไป
บุคคลที่ใช้เนตรวงแหวนเป็นอาวุธ
1. อุจิวะ มาดาระ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์)เป็นคนก่อตั้งตะกลูอุจิวะ เอาตาของน้องชายมาใส่ เพราะใช้เนตรมากจนตาบอด2. อุจิวะ อิซึนะ (เนตรวงแหวน)น้องชายของมาดาระ
3. อุจิวะ อิทาจิ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา) จะได้พลังมา 3 อย่างคือ อ่านจันทรา,เทวีสุริยา และ เทพวายุ คนฆ่าล้างตะกลูอุจิวะ
4. ฮาตาเกะ คาคาชิ (เนตรวงแหวนข้างซ้าย) คาคาชิสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เพราะเนื่องจากที่ได้มาจากการฝึกฝน ต่างกับของอิทาจิที่ได้มาจากการสังหารเพื่อนสนิท ทำให้พลังที่ได้จึงแตกต่างกัน คือ สามารถย้ายสิ่งต่างๆ ที่ตนเพ่งไปยังมิติอื่นได้ อาทิเช่น แขนของเดอิดาระ มีคนนอกตระกูลเพียงคนเดียวที่ได้รับเนตรวงแหวน มาจากเพื่อนในสมัยเด็กคือหลังจากถูกเชลยสงครามชิงตัวไป ซึ่งเพื่อนของเขาได้มอบเนตรวงแหวนให้คาคาชิก่อนที่จะตาย เพื่อเป็นของขวัญที่คาคาชิสามารถสอบเป็นโจนินได้สำเร็จ
5. อุจิวะ ซาสึเกะ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา,เทวีสุริยา จากอิทาจิ)ทายาทคนสุดท้ายของอุจิวะ
6. อุจิวะ โอบิโตะ เป็นคนมอบเนตรวงแหวนข้างขวาของตนเองให้กับคาคาชิ
7. โทบิ (เนตรวงแหวน???)หนึ่งในแสงอุษา ที่ใส่หน้ากาก ว่ากันว่าเป็นอุจิวะ มาดาระ แต่มีเนตรวงแหวนข้างขวา ข้างเดียวกันกับดันโซ
8. ดันโซ(เนตรวงแหวน ข้างขวา)มีเนตรวงแหวนข้างเดียวแบบคาคาชิ โดยมีผ้าปิดตาอยู่ ความสามารถ!?... (จากตอน455)

เกร็ดเล็กน้อย
เนตรวงแหวน- เนตรวงแหวน = พันธุกรรม
- เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา = สามารถได้มากจากการที่ฆ่าเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่สำคัญที่สุด 1 คนขึ้นไป
- เนตรวงแหวนกระเงาหมื่นบุปผาของคาคาชิ = ได้มาจากการฝึกฝน
- เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ = ได้จากการที่ต้องนำดวงตาของคนที่มีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผามาเปลี่ยนเป็นดวงตาของตน
รายชื่อผู้ที่สามารถเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้
- อุจิวะ มาดาระ
- อุจิวะ อิซึนะ
- อุจิวะ อิทาจิ
- อุจิวะ ซาสึเกะ
- ฮาตาเกะ คาคาชิ
...........ผลกระทบ จากการใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คือจะไม่ได้รับแสงสว่างอีกต่อไป ซึ่งนั่นก็คือ ตาบอดนั่นเองอุจิวะ อิทาจิ ได้พูดไว้ในตอน 386 แต่เนตรหมื่นบุปผานิรันดร์ของมาดาระจะไม่ได้รับผลกระทบนี้...........เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ จะใช้เนตรนี่เท่าไรก็ได้ เพราะเนตรนี่จะไม่มีวันกลับไปตาบอดอีกได้อีก แล้วจะมีชีวิตที่เป็นอมตะ ไม่มีวันตาย
เนตรสีขาว

เนตรสังสาระ

2.สายเฉพาะ
กระจกเงาทมิฬ

ใช้กระดูกเป็นอาวุธ

-
ท่าโจมตี
- ระบำต้นสน เป็นการยืดกระดูกออกจากร่างกายมาป้องกันตน
- สิบกระสุนปลายนิ้ว เป็นการยิงกระดูกนิ้วมือเข้าหาคู่ตู้สู้ใน ระยะ100เมตร
- ระบำดอกหลวดเหล็ก เถาวัลย์ บุปผา เป็นการเอากระดูกสันหลังมาทำเป็นดาบยืดหดได้ตามต้องการ
- ระบำต้นเฟิร์น เป็นเอากระดูกขึ้นมาจากดินที่สร้างด้วยจักระ
ระเบิดดินเหนียว

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น